แบตเตอรี่ เป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้า การดูแลแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ จะช่วยให้รถสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟจนเต็ม 100% บ่อยครั้ง เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย
- ชาร์จไฟให้บ่อยขึ้นในช่วงที่มีการใช้งานบ่อย
- จอดรถในที่ร่มหรือที่มีอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
ระบบเบรก รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อนแทนการใช้เครื่องยนต์ ส่งผลให้ระบบเบรกทำงานน้อยลง แต่ก็ยังต้องได้รับการดูแลรักษาอยู่เช่นกัน สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกเป็นประจำ
- เปลี่ยนผ้าเบรกและจานเบรกตามระยะที่กำหนด
- หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหันบ่อยครั้ง
ระบบระบายความร้อน รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาให้สะอาดและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นเป็นประจำ
- เปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นตามระยะที่กำหนด
- ทำความสะอาดช่องระบายอากาศ
ของเหลวที่เกี่ยวข้องกับระบบเบรก รถยนต์ไฟฟ้ามีระบบเบรกแบบดิสก์เบรกและดรัมเบรก จำเป็นต้องใช้ของเหลวในการหล่อลื่นและป้องกันสนิม สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกเป็นประจำ
- เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกตามระยะที่กำหนด
ยาง รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ส่งผลให้ยางสึกหรอเร็วกว่า สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ
- เปลี่ยนยางตามระยะที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังมีวิธีดูแลรถไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- ล้างรถเป็นประจำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งแปลกปลอม
- เข้ารับการตรวจสภาพรถตามระยะที่กำหนด
- เรียนรู้วิธีการใช้รถไฟฟ้าอย่างถูกต้อง
การดูแลรถไฟฟ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้รถสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ รีวิวรถได้ที่ รีวิวรถน่าใช้ 2023